
อัปเดต! 10 ของฝากจากญี่ปุ่น น่ารักโดนใจ หาซื้อง่าย ราคาสบายกระเป๋า
หากจะพูดถึง ‘ญี่ปุ่น’ ประเทศในฝันของนักเดินทางทั่วโลก หลายคนคงนึกถึงความสวยงามของธรรมชาติในแต่ละฤดูกาล อาหาร วัดและศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ การ์ตูนอะนิเมชั่น ประเพณี และเทศกาลต่าง ๆ แล้วญี่ปุ่นยังเป็นสวรรค์แห่งการช้อปที่หลายคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพียงคุณแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อน ๆ ก็ลุ้นรอของฝากจากคุณกันแล้ว ชับบ์รวม 10 ของฝากจากญี่ปุ่นที่ผู้รับสุขใจ-ผู้ให้ก็สบายกระเป๋ามาเป็นไอเดียดี ๆ ให้คุณ
เครื่องรางนำโชค (Omamori)

หนึ่งในของฝากยอดนิยมต้องยกให้ ‘โอะมะโมะริ’ หรือเครื่องรางนำโชคของวัดศักดิ์สิทธิ์และศาลเจ้าต่าง ๆ ชาวญี่ปุ่นนิยมพกเครื่องรางนำโชคไว้เพื่ออธิษฐานขอพร รวมถึงปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัยจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง เครื่องรางยังมีหลายประเภทและแตกต่างกันตามเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในแต่ละศาลเจ้า เช่น เทพแห่งการศึกษา เทพแห่งความสำเร็จ เทพแห่งความรัก เทพแห่งสุขภาพ เทพแห่งโชคลาภ เป็นต้น ทั้งนี้ชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางไปขอพรและซื้อโอะมะโมะริเป็นของฝาก และพกเครื่องรางติดตัวเสมอ เครื่องรางนำโชคนี้จึงกลายเป็นของฝากยอดนิยมจากญี่ปุ่นที่เหมาะกับสายบุญและคนในครอบครัว
** Tips: ควรพกเครื่องรางติดตัวไว้ทุกวัน ถ้าคุณอยากตั้งไว้ที่บ้านควรวางไว้ให้เห็นเด่นชัดในตำแหน่งที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะให้ดีควรเปลี่ยนเครื่องรางทุก ๆ ปีใหม่ ส่วนเครื่องรางเก่าชาวญี่ปุ่นจะนำกลับไปคืนให้กับศาลเจ้าหรือวัดเดิม แต่ถ้าคุณไม่ได้กลับไปอีกก็นำไปคืนที่ศาลเจ้าหรือวัดอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
ตุ๊กตาดารุมะ (Daruma)

ตุ๊กตาประจำชาติและของฝากจากญี่ปุ่นที่มีความหมายลึกซึ้งคือ ‘ตุ๊กตาดารุมะ’ ตุ๊กตาที่ทำจากกระดาษวาชิ (Washi) ที่มีต้นแบบมาจากภาพวาดของพระโพธิธรรมลักษณะคล้ายตุ๊กตาล้มลุก ไม่มีแขน-ขาและไม่มีลูกตา
เพราะเจ้าของตุ๊กตาจะต้องแต้มสีของดวงตาด้วยตัวเองเพื่อให้คำอธิษฐานเป็นจริง โดยตุ๊กตาดารุมะแต่ละสีจะมีความหมายที่แตกต่างกัน โดย
‘สีแดง’ เป็นสีจีวรของพระโพธิธรรมสมัยโบราณ หมายถึง การขับไล่ภูติผีปีศาจและโรคร้าย
‘สีม่วง’ หมายถึง ชีวิตยืนยาว
‘สีเหลือง’ หมายถึง ชื่อเสียงและความสำเร็จ
‘สีทอง’ หมายถึง โชคลาภและเงินทอง
‘สีขาว’ หมายถึง เรียนดี
‘สีเขียว’ หมายถึง สุขภาพแข็งแรง
ส่วนสีอื่น ๆ จะมีความหมายแตกต่างกันตามความเชื่อของศาลเจ้า โดยบริเวณคางของตุ๊กตาดารุมะจะเขียนคำอวยพรเอาไว้ เช่น โชคดี สุขภาพดี สอบผ่าน ประสบความสำเร็จ ฯลฯ
** Tips: วิธีการขอพรจากตุ๊กตาดารุมะ ให้ใช้หมึกดำวาดลูกตาข้างขวาก่อน 1 ข้าง จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งที่ปรารถนา เมื่อคำอธิษฐานเป็นจริงแล้วค่อยเติมลูกตาข้างซ้ายอีกหนึ่งข้าง นำไปวางไว้บนหิ้งพระและหันหน้าไปทางทิศใต้
แมวกวักญี่ปุ่น (Manekineko)

‘มาเนคิเนโกะ’ หรือที่คนไทยเรียกว่า ‘แมวกวัก’ ของฝากสุดคลาสสิกที่ความหมายดีและเหมาะสำหรับคนทำอาชีพค้าขาย เจ้าของกิจการ ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และนักเสี่ยงโชค วิธีเลือกน้องแมวกวักที่เหมาะสมกับผู้รับให้ดูว่าน้องยกขาข้างไหน โดยน้องแมวกวักที่ยกขาหน้าข้างขวา หมายถึง ‘กวักเงินกวักทอง’ ส่วนแมวกวักที่ยกขาหน้าข้างซ้าย หมายถึง ‘ขายดีมีลูกค้าแน่นร้าน’ และแมวกวักที่ยกขาหน้าทั้งสองข้าง หมายถึง ‘ค้าขายร่ำรวย กิจการรุ่งเรือง’ นั่นเอง
ตำนานแมวกวักมีต้นกำเนิดมาจากวัดโกโทคุจิ (Gotoku-ji Temple) วัดดังแห่งกรุงโตเกียว ในยุคเอโดะมีแมวตัวหนึ่งกวักเรียก ‘อิอิ นาโอทากะ’ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นไดเมียวในช่วงเวลานั้นให้เข้ามาหลบฝนภายในวัด และทำให้เขารอดพ้นจากการถูกฟ้าผ่า ท่านไดเมียวจึงเชื่อว่า วัดนี้เป็นที่สถิตของแมวที่นำพาความโชคดีมาสู่ผู้คน และกลายเป็นวัดแมวกวักที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ขนมขึ้นชื่อของแต่ละจังหวัด

แต่ละจังหวัดของญี่ปุ่นต่างก็มีของฝากที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากวัตถุดิบเลื่องชื่อในแต่ละท้องถิ่น เช่น พายแอปเปิ้ลกรอบของอาโมโมริ (Kininaru Ringo) ขนมไข่นกนางนวลของอิวาเตะ (Kamome no Tamago) คัสตาร์ดครีมของมิยางิ (Hagi no Tsuki) พายปลาไหลของชิซุโอกะ (Unagi Pie) เป็นต้น เรียกว่าจังหวัดไหน ๆ ของญี่ปุ่นก็มีของดีที่ไม่ควรพลาดทั้งนั้น หากคุณมีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองไหนก็อย่าลืมหาของฝากขึ้นชื่อจากแต่ละเมืองติดไม้ติดมือมาฝาก รับรองไม่ผิดหวัง
เครื่องสำอางญี่ปุ่น

ไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องช้อปสกินแคร์และเมคอัพสุดปังจากแดนอาทิตย์อุทัย อีกหนึ่งของฝากที่คุณพลาดไม่ได้เป็นอันขาด! เพราะอุตสาหกรรมความงามของญี่ปุ่นโด่งดังไปทั่วโลก เครื่องสำอางสัญชาติญี่ปุ่น มีหลากหลายสรรพคุณ และมีราคาเริ่มตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน โดยเฉพาะโฟมล้างหน้า ครีมกันแดด จนถึงน้ำตบ best seller
ด้วยญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์ความงามอันดับต้นของโลก และเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางคุณภาพดีที่มีให้เลือกมากมาย แบรนด์น้องใหม่และสายออร์แกนิคที่ยังไม่เข้าไทยก็มีให้เลือกเพียบ แถมยังเข้ากันได้ดีกับสภาพผิวของชาวเอเชียอย่างชาวไทยเรา เรียกว่าซื้อไปฝากเพื่อนสาวรับรองต้องร้อง...ว้าว!
ชาเขียว (Green Tea) และมัทฉะ (Matcha)

นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มสายเฮลท์ตี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ชาเขียวและมัทฉะเป็นของฝากจากญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และคนที่คุณห่วงใย มีถิ่นกำเนิด ปรัชญา กรรมวิธีการปลูก และรสชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น โดย ‘ชาเขียว’ หมายถึง ใบชาที่นำไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ ส่วน ‘มัทฉะ’ เป็นชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ประณีตบรรจงกว่า ใช้ผ้าคลุมในการปลูกเพื่อไม่ให้ชาโดนแสงมากเกินไป และเก็บด้วยมือทีละใบเพียงปีละครั้ง จากนั้นนำมาบดให้เป็นผงละเอียดและมีกลิ่นหอมที่นุ่มนวล ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อนทำให้มัทฉะมีราคาแพงกว่าชาเขียว แล้วมัทฉะยังสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำขนมและอาหารได้ด้วย
** Note: ชาเขียวและมัทฉะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเพราะมีวิตามินซีและวิตามินบีสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นความจำและป้องกันโรคภาวะสมองเสื่อมอีกด้วย
ขนมวากาชิ (Wagashi)

เมื่อมีมัทฉะแล้วก็ต้องรับประทานคู่กับ ‘วากาชิ’ ของฝากจากญี่ปุ่นที่นอกจากจะมีหน้าตาหลากหลายและสีสันสวยงาม ความหมายดี และมีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยปีแล้ว เชื่อกันว่า ขนมวากาชิที่มีหน้าตาและสีสันสวยงามดังที่เห็นทุกวันนี้ได้รับอิทธิพลมาจากสมัยเอโดะ (ยุคเฟื่องฟูของวากาชิ) ซึ่งบางร้านยังคงสืบทอดกิจการมาจนถึงปัจจุบัน วากาชิทำจากถั่วแดง ถั่วขาว และแป้งข้าวเหนียว มีรสชาติหวานละมุน จึงนิยมรับประทานคู่กับน้ำชาเป็นของว่างยามบ่าย ของหวานในพิธีชงชา และของขวัญสำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ
ชีสเค้กเจ้าดังของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักเบเกอรี่และชีสเค้กอย่างแท้จริง โดยเฉพาะชีสเค้กเจ้าดังที่มีให้เลือกมากมายหลายสูตร ใครไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องซื้อชีสเค้กเจ้าดังติดไม้ติดมือกลับมาฝากแทบจะทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชีสทาร์ตในตำนานที่สร้างปรากฎการณ์ต่อคิวยาวแทบทุกสาขา ชีสเค้กเจ้าดังขนาดพอดีคำแยกเป็นซองบรรจุเล็ก ๆ แบ่งรับประทานง่าย ฝากเพื่อน ๆ ได้หลายแผนก ชีสเค้กสไตล์นิวยอร์กที่ เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ ไม่ใส่สารกันบูด ไม่แต่งกลิ่นและสี โดยทุกร้านจะเน้นความพรีเมียมของชีสคุณภาพดีเป็นหลัก
อินคัง หรือ ฮังโกะ (Hanko)

ของฝากจากญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใครในโลกต้องยกให้ ‘อินคัง’ (Inkan) หรือ ‘ฮังโกะ’ (Hanko) ตราประทับและหมึกที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้แทนลายเซ็นต์ ชาวญี่ปุ่นนำฮังโกะมาใช้ตั้งแต่ปี 1957 เป็นต้นมา โดยนิยมแกะสลักลงบนงาช้าง เขาสัตว์ หยก ไม้ และหิน มีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึง 10,000 เยน (ขึ้นอยู่กับความยากและวิจิตรบรรจงของลวดลาย) ฮังโกะที่นิยมใช้ในชีวิตประจำวันเรียกว่า ‘มิโตะเมอิน (Mitomein)’ เป็นตราประทับแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกซื้อฮังโกะสำเร็จรูปที่วางขายในร้าน 100 เยน หรือสนุกกับการทำฮังโกะภาษาอังกฤษสำหรับเป็นของที่ระลึกที่ตู้ทำฮังโกะอัตโนมัติที่ร้านดองกี้โฮเต้ (Don Quijote) ได้ด้วย
กาชาปอง (Gachapon)

นาทีนี้ไม่มีของฝากจากญี่ปุ่นชิ้นไหนจะโดนใจวัยรุ่นเท่ากับ ‘กาชาปอง’ อีกแล้ว ตู้หยอดเหรียญหลักร้อยเยนที่มีให้เลือกสนุกมากมาย แค่หยอดเหรียญแล้วลุ้นว่าคุณจะได้ของเล่นหรือตัวการ์ตูนอะนิเมชั่นชื่อดังตัวไหน กาชาปองมีให้เลือกสุ่มได้ทั่วประเทศ ทั้งสถานีรถไฟ ย่านท่องเที่ยว และร้านสะดวกซื้อ คาดการณ์ว่า ปัจจุบันมีตู้กาชาปองในประเทศญี่ปุ่นกว่า 5 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะโตเกียวที่เต็มไปด้วยศูนย์รวมกาชาปอง ไม่ว่าจะเป็น อากิฮาบาระ (Akihabara) ศูนย์รวมกาชาปองหายาก อูเอโนะ (Ueno) สวรรค์ของคนรักของเล่น อะนิเมะ และกาชาปอง ชินจูกุ (Shinjuku) ศูนย์รวมกาชาปองนับร้อย โตเกียว สเตชั่น (Tokyo Station) ถนนแห่งกาชาปอง และสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) ที่มีตู้กาชาปองเรียงรายทั้ง Terminal 1 และ Terminal 2
อยากเที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกอย่าลืมซื้อประกันการเดินทางจากบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรหลายประเทศทั่วโลก พร้อมช่วยเหลือคุณในกรณีเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ทรัพย์สินสูญหาย หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในต่างแดน ประกันภัยการเดินทางชับบ์ (Chubb Travel Insurance) พร้อมดูแลคุณอย่างดีที่สุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2611-4242