
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ไต้หวัน” (Taiwan) กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิป ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รู้จักดินแดนแห่งนี้จากงานศิลป์ พิพิธภัณฑ์ คาเฟ่เก๋ ๆ และแหล่งช้อปสุดชิค ทว่าไต้หวันยังครองใจนักเดินทางหลายเจเนอเรชั่น ที่ฝันอยากมาสัมผัสกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดศักดิ์สิทธิ์ อร่อยกับสตรีทฟูด ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ แล้วไต้หวันยังมีอะไรอีกมากมายให้น่าค้นหา ชับบ์อาสาพาคุณไปรู้จักกับไต้หวันมากขึ้น
เกาะแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวออสโตรนีเซียน (Austronesian) ก่อนจะตกเป็นเมืองอาณานิคมของชาวดัตช์ สเปน และจีน กระทั่งในปี ค.ศ. 1885 ราชวงศ์ชิงได้สถาปนาไต้หวันเป็นจังหวัดที่แยกออกจากกัน โดยมี ‘ไทเป’ เป็นเมืองหลวงจนถึงปัจจุบัน ไต้หวันกลายเป็นผู้นำแห่งความทันสมัย ที่มีความหลากหลายของผู้คนและวัฒนธรรม แล้วยังเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีระบบขนส่งมวลชน (TOD) ที่ครอบคลุม รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง ที่ช่วยให้การเดินทางระหว่างไทเปและเมืองอื่น ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
นอกจากนี้ ไต้หวันยังส่งเสริมด้านศิลปและวัฒนธรรมไปทั่วโลก ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตแบบก้าวกระโดด จะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวประมาณ 12 ล้านคนในปี ค.ศ. 2019 ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ทำให้ไต้หวันเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสำหรับนักเดินทาง ที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวไต้หวันคือ เดือนกันยายน-ธันวาคมของทุกปี เพราะคุณจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายและแสงแดดอุ่นในฤดูหนาว แม้เดือนพฤศจิกายนจะมีวันฝนโปรย แต่ส่วนใหญ่แล้วฝนมักจะตกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าคุณแพลนไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวอาจจะต้องรีบจองที่พักบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสักหน่อย ซึ่งเดือนที่ควรหลีกเลี่ยงหากคุณไม่อยากเจอพายุฝนกระหน่ำคือเดือนพฤษภาคม หรือที่ชาวไต้หวันยกให้เป็นฤดูมรสุมนั่นเอง (Tropical Typhoon Season)
โดยเฉพาะคนที่อยากชมความสวยงามของดอกซากุระในไต้หวัน ไม่ว่าจะวัดเทียนหยวน (Wuji Tianyuan Temple) อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Park) แนะนำให้แพลนเดินทางตั้งแต่ช่วงเดือนกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ส่วนในช่วงฤดูร้อนคุณก็สามารถเพลิดเพลินกับสีสันอันสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงเทศกาลต่าง ๆ ของไต้หวันที่มักจะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ไต้หวันเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม อาหาร และตลาดกลางคืนที่มีสตรีทฟูดให้เลือกอร่อยได้ไม่ซ้ำ โดยเฉพาะไทเป (Taipei) เมืองหลวงของไต้หวัน ชับบ์คัด 10 สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันคัดเน้น ๆ สำหรับคนที่มีโปรแกรมเที่ยว 3-5 วัน เที่ยวสบายและเที่ยวได้ทั้งทริปครอบครัว เพื่อนสนิท และคนรัก ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง เตรียมแพลนทริปกันได้เลย
หนึ่งในสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันคือ “อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก” สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือนไต้หวัน ที่มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอัตชีวประวัติและเส้นทางสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1976 เพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชก อาคารสีขาวทั้ง 4 ด้านมีหลังคาทรง 8 เหลี่ยมสีน้ำเงินแบบสถาปัตยกรรมจีน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางจตุรัสเสรีภาพ (Freedom Square) มีบันไดด้านหน้า 89 ขั้นเท่ากับอายุของท่านประธานาธิบดี ภายในมีรูปปั้นสัมฤทธิ์ของท่านในท่านั่งขนาดใหญ่ ใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากรูปปั้นของท่านที่หลายคนคุ้นตา และมีทหาร 2 นายยืนเฝ้าตลอดเวลา กำแพงด้านหลังจะมีข้อความปรัชญาทางการเมืองการปกครองของท่านอยู่ 3 คำคือ จริยธรรม ประชาธิปไตย และวิทยาศาสตร์
Tip: ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ร่วมชมพิธีผลัดเปลี่ยนเวรของทหาร 3 เหล่าทัพ (ปฏิบัติหน้าที่ทัพละ 4 เดือน) ทุกต้นชั่วโมงของทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-16:00 น. พิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา โดยช่วงเดือนเมษายน-กันยายนของทุกปี เวลา 06:00 น. และ 18:10 น. ส่วนเดือนตุลาคม-มีนาคม เวลา 06:30 น. และ 17:10 น. ในช่วง
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) หรือรถไฟธรรมดา (TRA) ลงสถานี Taipei ต่อรถไฟฟ้าไทเป (Taipei MRT) ลงสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hal หรือนั่งรถบัส Taipei Sightseeing Bus สายสีแดง ลงป้าย Chiang Kai-Shek Memorial Hall
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/MaNEmQGhk1gNao2P7
วัดหลงซานตั้งอยู่ในเขตว่านหัว (ย่านเมืองเก่า) เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในไทเป วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 300 ปี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 แล้วยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของชาวไต้หวันเพราะในอดีตวัดแห่งนี้เคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รูปเคารพเจ้าแม่กวนอิมในพระตำหนักกลับไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ ทำให้ชาวไต้หวันเลื่อมใสและศรัทธามากขึ้น รวมถึงมีการบูรณะวัดใหม่จนสวยงามกว่าเดิม
วัดหลงซานยังมีชื่อเสียงเรื่องการขอพรครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการเรียน การงาน สุขภาพ โชคลาภ การเดินทาง และความรัก ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ทั้งพุทธ เต๋า และขงจื้อ รวมถึงเทพที่มีชื่อเสียงเรื่องความรักคือ “เทพเย่ว์เหล่า” (月老) หรือ “ผู้เฒ่าจันทรา” ชาวจีนเชื่อว่า เทพเย่ว์เหล่าเป็นชายชราถือเชือกวิเศษสีแดงกับสมุดบันทึก หากผู้เฒ่าจันทราผูกปลายเชือกแดงไว้ที่ข้อเท้าของชายหญิงคู่ใด แม้อีกฝ่ายจะอยู่ไกลแสนไกลเพียงใดก็ย่อมได้ครองรักกันในที่สุด ดังบทกวีที่ว่า “ห่างกันพันลี้แสนไกล บุพเพเชื่อมไว้ด้วยด้ายแดง”
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Longshan Temple Station ทางออก 1 เดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตร
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่ามากที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติหรือ “พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติกู้กง” ตั้งอยู่ทางตอนบนใกล้กับเนินเขาของไทเป ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บรวบรวมสิ่งของล้ำค่าจากพระราชวังต้องห้ามของจีน (Forbidden City) ถึงกว่า 620,000 ชิ้น และบางชิ้นมีอายุเก่าแก่ถึงกว่า 5 พันปี โดยอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชกลี้ภัยมาอยู่ไต้หวันก็ได้นำโบราณวัตถุเหล่านี้มาด้วย ไม่นับรวมงานจิตรกรรม เซรามิก ทองสำริด เครื่องประดับ หยก เฟอร์นิเจอร์ยุคราชวงศ์ชิง (Qing Dynasty) และราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ผลงานศิลปะ และโบราณวัตถุต่าง ๆ แล้วยังมี “สวนจื้อซั่น” (Zhi Shan Garden) สวนสไตล์จีนขนาดใหญ่ที่มีสระน้ำและเก๋งจีนให้พักผ่อน สายจิบชาไม่ควรพลาดร้านน้ำชาและติ่มซำที่เปิดให้บริการบนชั้น 4 ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน I วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิดตั้งแต่ 08.30-18.30 น. I วันศุกร์และวันเสาร์ เปิดตั้งแต่ 08.30-21.00 น. (ค่าเข้าประมาณ 22 บาท)
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ลงสถานี Taipei ต่อรถไฟไฟ้าไทเป (Taipei MRT) ลงที่สถานี Shilin จากนั้นต่อรถบัสไทเปสีแดงหมายเลข 30 มาลงที่ป้าย National Palace Museum หรือนั่งรถบัสไทเปสายสีน้ำเงินลงที่ป้าย National Palace Museum
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/w32PUuUKRffSRJSL9
เพลินกับตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไทเป เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1899 มีร้านค้ามากกว่า 500 ร้าน มีให้เลือกอร่อยทั้งอาหารท้องถิ่น หมาล่าชาบู ของหวาน ผลไม้ เครื่องดื่ม เสื้อผ้า กระเป๋า สนีคเกอร์แบรนด์ดัง มาถึงตลาดซื่อหลินแล้วต้องไม่พลาดแพนเค้กเจ้าดัง เต้าหู้เหม็น ไข่เจียวหอยนางรม ชาไข่มุก หมาล่าเสียบไม้ ไส้กรอกข้าวเหนียว เกี๊ยวรสเด็ด ฯลฯ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักชิมและสายช้อปอย่างแท้จริง แล้วยังเดินทางสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานี Jiantan ใครมาเที่ยวไต้หวันต้องไม่พลาดตลาดกลางคืนแห่งนี้
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-24.00 น.
การเดินทาง: เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง (Tamsui-Xinyi) ลงสถานี Jiantan Station เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้าจะเห็นตลาดซื่อหลินอยู่ฝั่งตรงข้ามของสถานี
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/zq5gpzo9nTKppfW79
อุทยานแห่งชาติหยางหมิงซานตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเป่ยโถว (Beitou District) ประกอบด้วย ภูเขาสูงใหญ่ ภูเขาไฟ บ่อน้ำพุร้อน น้ำตก ทุ่งดอกไม้ และเป็นอุทยานเดียวในไต้หวันที่เคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน โอบล้อมด้วยภูเขาและทัศนียภาพอันสวยงาม จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี และตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนและดอกไม้หลากสี ทำให้อุทยานแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ผลัดกันผลิบานในแต่ละฤดูกาล ยิ่งถ้าคุณไปเที่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม จะได้ชมความสวยงามของดอกซากุระ ดอกกุหลาบพันปีสีขาว ดอกไฮเดรนเยีย และดอกคาลล่า ลิลลี่ บานสะพรั่งสร้างสีสันไปทั่วทั้งภูเขา ส่วนถ้าไปเที่ยวเดือนตุลาคมจะได้ชมทุ่งหญ้าสีเงินที่เปล่งประกายนามต้องแสงแดด
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR) ลงสถานี Taipei Station ต่อรถบัสหมายเลข 1717 ลงป้าย Yangmingshan National Park Administration
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/PiAKWezctzub11Ca8
ทะเลสาบที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และทะเลสาบน้ำจืดธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ภายใต้ความเงียบสงบของทะเลสาปสีฟ้าใส โอบล้อมด้วยภูเขาสูงใหญ่สีเขียวสบายตา โดยคำว่า “สุริยันจันทรา” มาจากสภาพภูมิประเทศที่โดดเด่น ฝั่งตะวันออกดูคล้ายดวงตะวัน ฝั่งตะวันตกคล้ายกับจันทรา และมีเกาะลาลู (Lalu Island) เป็นตัวแบ่งเขตแดนทางธรรมชาติ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วมาปลดปล่อยกายใจใช้ชีวิตเนิบช้าแบบ Slow Life ทะเลสาบสุริยันจันทราตั้งอยู่ที่เมืองหยูชี (Yuchi Township) และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 748 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ราว 5.4 ตารางกิโลเมตร
นอกจากความงดงามตามธรรมชาติ คุณยังสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมายที่เปิดให้บริการรอบทะเลสาบ ไม่ว่าจะเป็น นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวทิวทัศน์แบบพานอรามา เดินเล่นริมน้ำ ปั่นจักรยาน ล่องเรือในทะเลสาบ ทั้งยังเป็นสถานที่จัด “เทศกาลว่ายน้ำทะเลสาบสุริยันจันทรา” ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ และเป็นเทศกาลระดับโลกที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำระยะทาง 3,000 เมตร ถึงกว่า 20,000 คน เพื่อท้าพิสูจน์ความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูง High Speed Rail จากสถานี HSR (ไทเป) ไปลงที่สถานี HSR (ไทจง) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วนั่งรถบัส Nantou Bus ไปทะเลสาบใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโม
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WMxgz6w58ivdvcPZ7
สายบุญต้องไม่พลาด พุทธอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันและสวยงามไม่เป็นสองรองใคร พุทธอุทยานโฝกวงซานสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1967 โดยพระอาจารย์ซิงหยุน (Master Hsing Yun) ร่วมกับคณะลูกศิษย์ ด้วยความแปลกตาของสถาปัตยกรรมภายในวัดที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะแบบอินเดีย บวกกับความกว้างใหญ่ของเขตพุทธศาสถาน ทำให้โฝกวงซานกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและชาวพุทธ ภายในวัดมีพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์สูงกว่า 120 เมตร ล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปปางยืน 480 องค์ และวิหาร 4 แห่งคือ อารามต้าสงเป่า (Daxiongbao) อารามต้าเป่ย (Dabei) อารามต้าจื่อ (Dazhi) และอารามต้าซู่ (Dashu) โดยอารามต้าสงเป่าครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาอารามทั้ง 4 แห่ง แล้วยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมล้อมรอบวิหารถึงกว่า 10,000 องค์ เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของการเที่ยวไต้หวันที่ควรค่าแก่การมาสักการะขอพร และหากมีเวลาจะถือโอกาสปฏิบัตธรรมก็ได้เช่นกัน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (ไม่เสียค่าเข้าชม)
การเดินทาง: นั่งรถไฟความเร็วสูง Zuoying HSR Station ต่อด้วยรถบัส E-DA bus สาย 8501 หรือจากสถานีรถไฟ Kaohsiung Railway Station นั่งรถบัสสาย 8010 หรือ 8011 ลงที่ด้านหน้าพุทธอุทยาน หรือใช้บริการรถแท็กซี่ด้านหน้าของพุทธอุทยาน
หากคุณเป็นแฟนคลับของ Ghibli Studio หมู่บ้านจิ่วเฟิ่นคือสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด หมู่บ้านที่เรียงรายบนภูเขาและทอดยาวริมทะเลแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากไทเป และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างอะนิเมชั่นเรื่อง “Spirited Away” ที่ชุบชีวิตอดีตเมืองค้าขายที่รุ่งเรืองด้วยแร่ทองคำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์อีกครั้ง คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินบนถนนสายเล็ก ๆ บันไดสูง ผ่านบ้านเรือน วัดวาอาราม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง สองข้างทางมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายขนม โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก และสตรีทฟูดให้เลือกอร่อยจนพุงกาง ทริปหนึ่งวันไปเที่ยวหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นจะทำให้คุณรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ของ Ghibli พร้อมสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและซึมซับประวัติศาสตร์กว่า 100 ปี ผ่านการเดินเท้าสำรวจตามซอกมุมต่าง ๆ แล้วจินตนาการว่าอยู่ในอะนิเมชั่นได้อย่างสนุกสนาน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Zhongxiao Fuxing แล้วต่อรถบัสสาย 1062 ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/FfrYy3fZM1RnetrR9
ฮิปสตรีทของไทเปต้องยกให้ “ซีเหมิงติง” ย่านช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวาและคึกคักที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไต้หวัน เจ้าของฉายา “ฮาราจูกุแห่งไทเป” ให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับร้านค้าตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ที่เก๋แทบทุกตารางนิ้ว สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า (ที่นี่ราคาถูกกว่าหลายประเทศ) คาเฟ่ และร้านอาหารชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ร้านบิงซูสูตรต้นตำรับจากไต้หวัน มันบดทอดชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบ ซุปบะหมี่เนื้อตุ๋น หมาล่าชาบู บัวลอยไต้หวัน ชานมไข่มุก หอยนางรมทอดสูตรไต้หวัน ฯลฯ ส่วนจุดถ่ายรูปห้ามพลาดก็ต้องทางม้าลาย ตึกแดง และถนนที่ประดับประดาด้วยแสงไฟยามค่ำคืน โดยเฉพาะช่วงเย็นเป็นเวลาที่ซีเหมิงติงจะคราคร่ำไปด้วยวัยรุ่น ความเก๋ของที่นี่จะอยู่ที่การผสมผสานความทันสมัย และร้านค้าเก่าแก่ที่อยู่คู่ซีเหมิงติงมายาวนาน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน
การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีเขียวหรือสีน้ำเงิน ลงสถานี Ximen Station ออก Exit 6
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/eoMTrN5pe13ULphA9
ไม่ไกลจากเมืองไทเปเป็นที่ตั้งของเมืองเป่ยโถว (Beitou) ที่มีบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังและเป็นเมืองตากอากาศของชาวไต้หวันและนักเดินทาง เมืองที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยของสถาปัตยกรรม และอนุรักษ์ตึกเก่าไว้ได้อย่างลงตัว ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ หอสมุดดีไซน์เก๋ พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อน และสวนสาธารณะประจำเมืองที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนจึงเต็มไปด้วยที่พักและโรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนให้นอนแช่กายคลายความเมื่อยล้า หรือที่หลายคนเรียกว่า “ออนเซ็นแห่งไต้หวัน” ทั้งยังมีบ่อน้ำพุร้อนให้แช่เท้าฟรีในหลายจุด
ไฮไลต์ของเป่ยโถวคือ Thermal Valley ที่ชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุในระดับเหมาะสมกับการแช่ตัว แนะนำให้ใช้เวลา 1 วันเก็บให้ทั่วทุกสถานที่ในเมืองเป่ยโถว แล้วคุณจะซึมซับวัฒนธรรม ความร่มรื่นของธรรมชาติ แช่น้ำพุเพื่อสุขภาพ รู้สึกสุขสงบและผ่อนคลายอย่างแท้จริง
เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน (หากอยากแช่ออนเซ็น ควรเช็กกับผู้ให้บริการและโรงแรม)
การเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง (THSR) หรือรถไฟธรรมดา (TRA) มาลงสถานีรถไฟไทเป และต่อรถไฟฟ้า Taipei MRT ลงสถานี Xinbeitou
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/mF5MGimkU2orkxuF8
ไต้หวันเป็นอีกหนึ่งดินแดนในฝันของนักเดินทาง ที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษทั้งทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากสไตล์ ตอบโจทย์การเดินทางกับครอบครัว คู่รัก และเพื่อนสนิท ใครที่อยากจะเดินทางไปไต้หวันอย่าลืมซื้อประกันเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) เพื่อให้คุณอุ่นใจในต่างแดน สอบถามข้อมูลการคุ้มครองประกันภัยได้ที่โทร. 0 2611 4242