7 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่สวยงามราวภาพฝัน

a-view-of-switzerland-with-building

    สวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 6.8 ล้านคนต่อปี (สถิติจาก Swiss Tourism Statistics 2022) ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมด้วยหิมะและธารน้ำแข็งสีขาว ตัดกับทะเลสาบสีเทอควอยซ์ที่ดูเหนือจริง ราวกับกระจกที่สะท้อนภาพความงดงามของธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง ความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์ครอบคลุมพื้นที่กว่า 60% ของประเทศ รายล้อมด้วยบ้านเรือนน่ารัก ๆ และปราสาทที่มีป้อมปราการเหมือนในเทพนิยาย จนถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง Chapel Bridge, Jungfraujoch, Interlaken, Lauterbrunnen และ Zermatt

    ชับบ์ ชวนคุณมาทำความรู้จัก 7 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2023-2024 เป็นไอเดียดี ๆ ในการไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง ไปเที่ยวดินแดนในฝันทั้งทีต้องมีประกันการเดินทางของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) เพื่อความอุ่นใจ จะทริปไหนก็เหมือนมีผู้ช่วยมือหนึ่งที่คอยดูแลคุณและสมาชิกอย่างดีที่สุดเสมอ 

1. ยอดเขาจุงเฟรายอค (Jungfraujoch)

a-view-of-jungfraujoch

    จุงเฟรายอค หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ยอดเขาที่สูงสุดในยุโรป" ที่คนสามารถขึ้นไปได้โดยไม่ต้องปีนเขา มีความสูง 3,466 เมตร ส่วนยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์คือ Mont Blanc ซึ่งมีความสูง 4,810.45 เมตร จุงเฟรายอคเป็นช่องสันเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ตั้งอยู่ในรัฐเบิร์น (Bern) เมืองหลวงโดยพฤตินัยของสวิสเซอร์แลนด์ เพราะเป็นที่ตั้งของรัฐบาล สภาสหพันธ์ และศาลฎีกา ส่วนการจะไปพิชิตยอดเขาแห่งนี้คุณก็สามารถนั่งรถไฟสายจุงเฟรา (Jungfrau Railway) สีแดงสดใสจากเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) จนถึงสถานีรถไฟจุงเฟรายอคได้เลย โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,454 เมตร และเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย

2. อินเทอร์ลาเคน (Interlaken)

houses-next-to-lake-clear-water

    อินเทอร์ลาเคน เป็นศูนย์กลางของความงามอันน่าทึ่งของธรรมชาติ ที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ 2 แห่งที่สวยงามอย่าง Thun Lake และ Brienz Lake ภาพของหิมะสีขาวที่ปกคลุมภูเขาและจุงเฟรายอคในตำนาน เพิ่มความรู้สึกตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปเห็นด้วยตาสักครั้ง ที่นี่มีรีสอร์ทชิค ๆ ให้เช็คอินหลายแห่ง รวมถึงกิจกรรมกลางแจ้งสนุก ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่การแล่นเรือใบ ปีนเขา เดินป่า ไปจนถึงขี่ม้า ท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงามจนแทบลืมหายใจ

ski-lift-over-mountains-cover-in-snow

    อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเมืองคือ ย่านเมืองเก่าอินเทอร์ลาเคน (Interlaken Old Town) ที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางความสวยงามของเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะมีถนนหนทางแต่ก็ปราศจากรถยนต์ มีบ้านเรือน ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และร้านค้าน่ารัก ๆ ให้เดินช้อปได้อย่างเพลิดเพลิน มีโบสถ์เก่าแก่ประจำเมือง (City Church Interlaken) สถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสก์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และปิดท้ายด้วยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชื่นชมความสวยงามของ ยอดเขาชิลท์ฮอร์น (Schilthorn) ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้แบบ 360 องศา

3. เซอร์แมท (Zermatt)

zermatt-mountain-with-reflection-in-the-lake

    เซอร์แมทเป็นหมู่บ้านตากอากาศในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โอบล้อมด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาแอลป์ ไฮไลต์อยู่ที่ แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ยอดเขารูปทรงคล้ายพีระมิดที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความสูง 4,478 เมตร และเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ด้วยความสวยงามราวภาพฝันนี่เองที่ทำให้นักปีนเขาหลายคนอยากจะพิชิตแมทเทอร์ฮอร์น (แต่ทั้งสวยงามและอันตรายในเวลาเดียวกัน) แล้วยังเป็นฉากหลังของภาพยนตร์หลายเรื่องอย่าง The Matterhorn (1955) และ Cliffhanger (1993) รวมถึงปรากฎอยู่บนโลโก้ของช็อกโกแลต Toblerone อีกด้วย

    นอกจากนี้ เซอร์แมทเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด แล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เดินป่า ล่องแก่ง และขี่จักรยาน ส่วนเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยังมีทะเลสาบสีดำ Schwarzsee ให้เดินเล่นริมน้ำได้แบบชิลล์ ๆ อย่าลิมแวะจุดชมวิว Gornergrat ที่สามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นและเทือกเขาแอลป์ได้อย่างสวยงามอลังการ เสน่ห์ของเมืองนี้ยังอยู่ที่ หมู่บ้านเซอร์แมท (Zermatt Village) ที่ปราศจากรถยนต์แต่ก็เต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และร้านรวงมากมาย ส่วนคนที่รักการผจญภัยต้องไม่พลาด Matterhorn Glacier Paradise สวนสนุกท่ามกลางหิมะที่ไม่เหมือนที่ไหน ตั้งอยู่บนยอดเขา Gornergrat ที่ที่คุณจะได้เล่นสกี สโนว์บอร์ด และสโนว์ทิวบ์ (Snow Tube) ท้าทายความหนาว

4. ซูริก (Zurich)

aerial-view-of-zurich

    ซูริกเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเงินและธุรกิจที่สำคัญของโลก ด้วยสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ แต่มีเมืองที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปกครองและเศรษฐกิจคือ เบิร์น (Bern) และซูริก (Zurich) หากเบิร์นเป็นเมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ซูริกก็เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอันสวยงามเนื่องจากทำเลที่ตั้งของเมืองอยู่ริมทะเลสาบซูริก บริเวณเชิงเขาแอลป์ จึงเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น จิบกาแฟ ช้อปปิ้ง และชิลล์ไปกับวิถีชีวิตอันมีเสน่ห์ของชาวเมืองซูริก

    มาถึงเมืองซูริกแล้วต้องแวะไปเยี่ยมชมความสวยงามของ Fraumünster โบสถ์ที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยหน้าต่างกระจกสีที่ออกแบบโดย Marc Chagall ช้อปปิ้งที่ย่าน Bahnhofstrasse ถนนสายช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของซูริก ขึ้นที่สูงเพื่อชมวิวพานอรามาของเมืองที่ Lindenhof สวนสาธารณะบนเนินเขา ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างสวยงาม ล่องเรือในทะเลสาบซูริก และลิ้มลองช็อกโกแลตสวิสที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

5. เลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen)

bird-eye-view-of-lauterbrunnen

    หมู่บ้านในรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังเนื้อหอมในหมู่นักท่องเที่ยว เลาเทอร์บรุนเนิน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชัน รายล้อมด้วยน้ำตกน้อยใหญ่ถึง 72 แห่ง ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติที่มีเสน่ห์แตกต่างกันไป โดยเฉพาะ น้ำตกทรึมเมิลบาค (Trümmelbach Falls) ในหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen Valley) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุด ด้วยน้ำตก 10 สายที่ไหลตกลงมาภายในภูเขา

    เช่นเดียวกับภาพความสวยงามตระการตาของ หุบเขาเลาเทอร์บรุนเนน สถานที่แห่งหนึ่งในโลกที่สวยงามจนแทบลืมหายใจ หลายคนถึงกับต้องแวะเป็นระยะ ๆ เพื่อหยุดถ่ายภาพอันสวยงามของธรรมชาติที่ดูราวกับสรวงสวรรค์ เรียกว่าจะมองมุมไหนหมู่บ้านแห่งนี้ก็เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยว ทำให้เลาเทอร์บรุนเนินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเดินป่า ปีนเขา เล่นสกี และกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ แล้วยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางไปยังยอดเขาจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) อีกด้วย

6. สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge)

chapel-bridge

    สะพานไม้โบราณที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปสร้างขึ้นในปี 1360 ใช้เวลาก่อสร้างนานหลายปีและได้รับการจดบันทึกครั้งแรกในปี 1367 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น (Lucerne) เพื่อทำหน้าที่เชื่อมระหว่างโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Chapel) ทางฝั่งขวาของแม่น้ำรอยส์กับเขตไฟรเอนฮอฟ (Freienhof district ปัจจุบันไม่มีอยู่แล้ว) ทางฝั่งซ้าย บนสะพานไม้มีภาพวาดศิลปะกว่า 100 ภาพ เป็นที่น่าเสียดายเมื่อเหตุเพลิงไหม้ในปี 1993 ได้ทำลายภาพวาดเหล่านั้นไปหลายภาพ ถึงอย่างนั้น สะพานก็ได้รับการซ่อมแซมจนสามารถเปิดใช้งานได้อีกครั้งในปี 1994

    ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความยาวของสะพานลดลงเรื่อย ๆ เดิมทีมีความยาวประมาณ 279 เมตร ถูกตัดให้สั้นลงเนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนและโครงการพัฒนาเมือง ถึงอย่างนั้น สะพานไม้ชาเปลก็ยังเติมเต็มความสวยงามของลูเซิร์น ที่ที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่เสียงฮัมเพลงในฤดูร้อนจากวงดนตรีออเคสตราและศิลปินเดี่ยว ส่วนฤดูหนาวทะเลสาบและสะพานไม้ก็ยังคงสวยงามราวกับดินแดนมหัศจรรย์ บ้านเรือนสีลูกกวาดและทางเดินริมน้ำที่มองเห็นผืนน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ ด้วยการผสมผสานระหว่างเสน่ห์ของโลกยุคเก่าและความทันสมัยที่มีชีวิตชีวา ทำให้ลูเซิร์นเป็นเมืองที่จะทำให้คุณค้นพบความสุขอย่างไม่รู้จบ

7. ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz)

bird-eye-view-photo-trees-with-body-of-water

    ทะเลสาบสีเทอควอยซ์สวยงามราวกับผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีชจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ในรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบเบรียนซ์มีความยาว 14 กิโลเมตร กว้าง 2.8 กิโลเมตร และลึกสุด 260 เมตร ได้รับการยกย่องว่าเป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นชื่อเรื่องน้ำใสสะอาดสีฟ้าคราม ทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ที่สวยงาม และหมู่บ้านริมทะเลสาบที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เช่น เบรียนซ์ อินเทอร์ลาเคน และอิเซลวัลด์ หมู่บ้านเหล่านี้มีร้านอาหาร ร้านค้า และโรงแรมมากมาย

    ไม่น่าแปลกใจที่คุณจะคิดว่า ช่างภาพน่าจะแต่งสีทะเลสาบแน่ ๆ เลย ทั้งที่ในความเป็นจริง ทะเลสาบเบรียนซ์สะท้อนเฉดสีเทอร์ควอยซ์ได้อย่างสวยงามจนน่าทึ่ง โดยไม่ต้องพึ่งการแต่งภาพจากแอปพลิเคชั่นหรือ Photoshop และเป็นสีสันที่แตกต่างจากทะเลสาบอื่นๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ โดยสีที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลสาบเกิดจากตะกอนขนาดเล็กจากธารน้ำแข็งละลายที่สะสมตัวอยู่ในทะเลสาบ อนุภาคเล็ก ๆ เหล่านี้ใช้เวลานานในการตกตะกอนในน้ำทะเลสาบใส พวกมันจึงสร้างสีเทอร์ควอยซ์ที่สวยงามได้อย่างชัดเจนนั่นเอง ใครมาเที่ยวทะเลสาบแห่งนี้ต้องไม่พลาดการล่องเรือ ปั่นจักรยาน ชื่นชมความสวยงามและกดชัตเตอร์รัว ๆ เพื่ออวดภาพสวย ๆ ลงโซเชียล

    ใครที่มีโอกาสไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝันของคนทั่วโลก อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมในแต่ละฤดูกาล สำคัญที่สุดทริปไหน ๆ ก็อุ่นใจเมื่อมีประกันการเดินของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ที่พร้อมดูแลคุณในทุกเส้นทางครอบคลุมทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สนใจประกันภัยการเดินทางสอบถามได้ที่โทร. 0 2611 4242