
ชวนไปส่องความสวยงามของธรรมชาติอันเลื่องชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวจีน และเมืองโบราณจีนที่สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ชับบ์รวม 12 สถานที่ท่องเที่ยวในจีน หมดกังวลเที่ยวจีน เมืองไหนดี? เพราะเราคัดเน้น ๆ เอาใจสายเที่ยวชิลล์ ๆ ด้วยตัวเอง หรือสายทัวร์กับครอบครัวก็สะดวกสบายไปอีกแบบ แต่จะให้ดีเที่ยวจีนอย่างอุ่นใจต้องมี ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ยืนหนึ่งเรื่องประกันการเดินทางที่พร้อมดูแลคุณในทุกทริปทั่วโลก เอาล่ะ! พร้อมแล้วก็ตะลุยแผ่นดินใหญ่กันเลย
สถานที่ท่องเที่ยวจีนมาแรงแห่งปี 2024 ต้องยกให้ “ฟูหรงเจิ้น” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมู่บ้านดอกบัวแดง” หมู่บ้านโบราณที่สร้างอยู่ริมผาน้ำตกสูงเกือบ 60 เมตร ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากซีรีส์พีเรียตของจีน ทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Hibicus Town” ที่ฉายในปี ค.ศ.1986 ทำให้ฟูหรงเจิ้นเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและต่างชาติ ที่ชื่นชอบในความสวยงามบริสุทธิ์ของธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมจีนที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน (เมษายน-ตุลาคม) ที่น้ำจะชุ่มฉ่ำเป็นพิเศษ ที่นี่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาชื่นชมความงามของหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางม่านน้ำตกและหุบเขาสูงตระหง่าน ปัจจุบันฟูหรงเจิ้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวฮั่นและชาวถู่เจียน ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มาตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ค.ศ.25-220) หรือนานเกือบ 2,000 ปีเลยทีเดียว
เจ้าของฉายา “เวนิสแห่งเมืองจีน” อย่างเฟิ่งห่วง (แปลว่า “หงส์”) ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองเซียงซี มณฑลหูหนาน ประเทศจีน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1704 สมัยราชวงศ์ชิง และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ UNESCO ในปี ค.ศ. 2008 ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งของแม่น้ำถัวเจียง (Tuojiang River) โดยมีสะพานหงเฉียวทำหน้าที่เชื่อมเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่เข้าด้วยกัน ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คอันสวยงามของเฟิ่งหวงอีกด้วย เมืองโบราณแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงามริมแม่น้ำถัวเจียง ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมการสร้างบ้านเรือนแบบยกสูงของชนเผ่าม้ง (แม้ว) และชนเผ่าถู่เจีย ทำให้เมืองเฟิ่งหวงมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ในประเทศจีน อีกทั้งความสวยงามของเมืองโบราณที่ทอดตัวยาวริมแม่น้ำสีมรกต ให้คุณเพลิดเพลินกับการล่องเรือชมเมืองเฟิ่งหวงอย่างเนิบช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟินกับอาหารพื้นเมืองที่เลื่องชื่ออย่าง หมูรมควัน ไก่อบดิน เต้าหู้เหม็น และเหล้ากีวี่ พร้อมสัมผัสแสงสีของเมืองโบราณยามค่ำคืน ที่ทำให้เมืองเฟิ่งหวงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจีนที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนสักครั้งในชีวิต
ซีอานเดิมมีชื่อว่า “ฉางอัน” เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจีนอย่างมาก นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์สำคัญถึง 13 ราชวงศ์ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก ราชวงศ์ฮั่น และราชวงศ์ถัง ยุคสมัยที่ซีอานเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดและเป็นศูนย์กลางอารยธรรมจีนโบราณ ตลอดจนศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่สำคัญในเส้นทางสายไหม แล้วยังมีสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกอย่าง “สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้” (Emperor Qinshihuang’s Mausoleum) กองทัพทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ ทำให้ซีอานเปรียบเสมือนบันทึกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของประเทศจีน ที่บอกเล่าความเชื่อของชีวิตหลังความตายและความเป็นอมตะผ่านกองทัพทหารดินเผาที่ซ่อนอยู่ใต้ดินมากว่า 2,700 ปี ปัจจุบันยังมีการค้นพบใหม่ ๆ ทางโบราณคดีและเรื่องราวที่ไม่มีวันสิ้นสุดของสุสานแห่งนี้ ใกล้กันยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้ชมโบราณวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
เมืองหลวงของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมยาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่นที่ซีอานพัฒนาจนกลายเป็นเมืองท่าสำคัญริมแม่น้ำเซียง นอกจากนี้ ฉางซายังเป็นที่รู้จักในฐานะบ้านเกิดของ “เหมา เจ๋อตง” (Mao Zedong) อดีตผู้นำพรรคพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนอีกด้วย สถานที่เที่ยวไฮไลท์ของที่นี่คือ “อุทยานจางเจียเจี้ย” (Zhangjiajie National Forest Park) หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามที่สุดของจีน และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง “Avatar” หนึ่งในที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดภายในอุทยานนี้คือ “เขาเทียนเหมินซาน” (Tianmen Mountain) หรือ “ประตูสวรรค์” หนึ่งในภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ท่ามกลางภูเขาหินเรียงรายสลับกันสุดลูกหูลูกตาที่มีความสวยงามทางธรรมชาติติดอันดับ 1 ใน 4 ของโลก ใช้เวลาไปกับเมืองน่าค้นหาแห่งนี้ด้วยการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก แล้วอย่าพลาดโชว์ดี ๆ อย่างโชว์นางจิ้งจอกขาวที่ขนนักแสดงมากกว่า 600 ชีวิต เพื่อบอกเล่าตำนานความรักคู่เมืองฉางชา ระหว่างนางพญาจิ้งจอกขาวกับชายหนุ่มคนตัดฟืน
หนึ่งในที่เที่ยวจีนที่ไม่ควรพลาด ด้วยเพราะมหานครฉงชิ่งผสมผสานความทันสมัยและธรรมชาติสุดอลังการเข้าไว้ด้วยกัน เมืองท่าสำคัญริมแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจในประเทศจีน ด้วยภูมิประเทศที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางภูเขาสลับซับซ้อน อาคารบ้านเรือนที่สร้างตามแนวหน้าผา และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือนฉงชิ่งคือ อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) หรือ “เทียนเชิงซ่านเฉียว” มรดกโลกทางธรรมชาติที่สวยงามตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกทำให้เกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ราว 300-500 เมตร และมีสะพานหินธรรมชาติขนาดมหึมา 3 แห่งทอดข้ามระหว่างภูเขา ราวกับว่าธรรมชาติสร้างสรรค์ “สะพานสวรรค์” ขึ้นมา ให้คุณตื่นเต้นไปกับการเดินบน “สะพานแก้วสวรรค์” หรือระเบียงกระจกสูง 1,200 เมตร และชื่นชมโรงเตี๊ยมเก่าแก่สมัยราชวงศ์ถัง โดยเฉพาะสะพานสวรรค์ทั้ง 3 แห่งถึงเส้นทางจะไกลแต่ความสวยงามของธรรมชาติคุ้มกับเหงื่อที่เสียไปแน่นอน!
เมืองที่มีชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางธรรมชาติ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง หุบเขา และแม่น้ำใสสะอาด ทำให้กุ้ยโจวเป็นเหมือนอัญมณีซ่อนเร้นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ไฮไลท์เด่นที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้คือ “น้ำตกชื่อสุ่ย” (Chishui Grand Waterfall) หรือ “น้ำตกหวีสวย” (Beauty’s Comb Waterfall) ครองแชมป์น้ำตกสวยงามเป็นอันดับ 1 ของประเทศจีน มีความสูงถึง 76 เมตร และกว้างถึง 81 เมตร เป็นน้ำตกเพียงแห่งเดียวที่ไหลผ่านภูเขาสายรุ้ง (Danxia Landform) ไหลลงจากหน้าผาสูงผ่านเมืองชื่อสุ่ยและทอดยาวไปตลอดทาง นักท่องเที่ยวที่ข้อเข่ามีปัญหาขาไม่แข็งแรงก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการผจญภัยที่นี่ เพราะเขาอำนวยความสะดวกให้ขั้นสุดด้วยการเจาะภูเขาทำลิฟต์นำนักท่องเที่ยวลงสู่ชั้นล่างของน้ำตก ใครชักชวนผู้หลักผู้ใหญ่ไปเที่ยวด้วยแล้วเจอแบบนี้ล่ะก็ถึงไหนถึงกัน นอกจากนี้ กุ้ยโจวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกหลายแห่ง ทั้งน้ำตกหวงกั่วซู่ (Huangguoshu Falls) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เมืองโบราณเจิ้นหยวง (Zhenyeun) หมู่บ้านม้ง และอุทยานแห่งชาติป่าหินแดง เรียกว่าไปเมืองเดียวเที่ยวได้ครบทุกอารมณ์เลยล่ะ!
นอกจากเฉิงตูจะเป็นบ้านอันอบอุ่นของแพนด้า และมีศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์เฉิงตูให้เที่ยวชมความน่ารักอย่างใกล้ชิด เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ยังมีอะไรให้เราได้สัมผัสมากมาย ทั้งวัดโบราณศักดิ์สิทธิ์ ภูเขาเขียวขจี ถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวา และอาหารเลิศเรียงรายสองข้างทาง อุดมสมบูรณ์ด้วยลำธาร น้ำตก และทะเลสาบสีมรกตราวกระจกใส โดยเฉพาะ “อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว” (Jiuzhaigou) ที่ได้รับการบรรจุเข้าลิสต์มรดกโลกทางธรรมชาติไปแบบไม่มีข้อกังขา ด้วยความสวยงามมหัศจรรย์ของธรรมชาติและทะเลสาบสีมรกต ที่รวมหุบเขา 3 แห่งเข้าไว้ด้วยกันคือ หุบเขาซู่เจิ้ง (Shuzheng Valley) หุบเขาเจ้อจ่าหวาโกว (Zechawagou Valley) และหุบเขารื่อเจ๋อโกว (Rizegou Valley) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมพักในอุทยานแห่งชาติช่วงเดือนตุลาคม เพราะตรงกับช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี ที่ต้นไม้น้อยใหญ่จะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นใบไม้หลากสีสันสวยงาม
เสฉวน หรือที่หลายคนเรียกว่า "สี่ชวน" เป็นหนึ่งในมณฑลที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศจีน ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม ธรรมชาติที่สวยงาม และอาหารจีนเสฉวนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้เสฉวนเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ใครมาถึงเสฉวนแล้วไม่ควรพลาดทะเลสาบหลากสีที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ และยอดเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมงดงามตลอดปีของ “อุทยานธารน้ำมังกรเหลือง” หรือ “ฮวงหลง” (Huanglong Pools National Park) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1992 ด้วยความสวยงามของสระน้ำสีมรกตที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สระสวรรค์ในแดนดิน” และคึกคักมากเป็นพิเศษในช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม ก่อนจะปิดทำการให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูในช่วงพฤศจิกายน-มีนาคมของทุกปี นอกจากนี้ เสฉวนยังมี “พระใหญ่เล่อซาน” (Leshan Giant Buddha) พระพุทธรูปสลักจากหน้าผาหินที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความสูงถึง 71 เมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิน จุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย ได้แก่ แม่น้ำต้าโตู่ แม่น้ำหลิงชาน และแม่น้ำมิน ในเมืองเล่อซาน มณฑลเสฉวน พระใหญ่เล่อซานสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง โดยใช้เวลาในการสร้างถึง 90 ปี
แม้กุ้ยหลินจะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน แต่ยังคงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี ไม่ว่ามองด้วยตาหรือถ่ายรูปออกมามุมไหนกุ้ยหลินก็สวยงามตระการตา ใครไปเที่ยวเมืองจีนต้องไม่พลาดปักหมุดเมืองนี้เป็นหนึ่งในลิสต์ที่ต้องไป โดยเฉพาะสายธรรมชาติตัวจริง เพราะที่นี่อุดมไปด้วยขุนเขากว่า 27,000 ยอด และสายน้ำหลีเจียงสีเขียวมรกตกว้างไกลกว่า 400 กิโลเมตร มีเขางวงช้าง (Elephant Trunk Hill หรือ Xiangbishan) หนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญของเมืองกุ้ยหลิน ด้วยรูปทรงคล้ายช้างกำลังก้มดื่มน้ำนี่เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง แนะนำให้ล่องแพแบบดั้งเดิมเพื่อชมความงดงามของธรรมชาติแบบใกล้ชิด
คุณหมิงในวันนี้กลายเป็นเมืองที่เติบโตร่วมกับวัฒนธรรมได้อย่างเหลือเชื่อ วัดเก่าแก่ยังคงได้รับการดูแลอย่างดี ดั่งเช่น “วัดหยวนทง” (Yuantong Temple) ศาสนสถานสำคัญที่หลอมรวมศิลปะแบบวัดไทย พม่า และธิเบต เข้าด้วยกันได้อย่าลงตัว ก่อสร้างเป็นอารามเพื่อพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง ได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ราชวงศ์ถัง อายุยาวนานกว่า 1,200 ปี มีเอกลักษณ์ที่หลังคาสีเหลืองอร่าม ซึ่งนับเป็นสีที่ใช้ได้เฉพาะฮ่องเต้นั่นเอง ด้านหลังของวัดยังมีโบสถ์ที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมจีน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ชาวไทยที่ไปเที่ยวจีนนิยมกราบไหว้เพื่อเสริมสิริมงคล
ห่างจากคุนหมิงประมาณ 400 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของต้าหลี่ เมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมของชนชาติไป๋และไตที่มีเอกลักษณ์ ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ต้าหลี่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของจีนเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาชางซาน (Cangshan Mountain) ที่ตั้งอยู่บนความสูงถึง 4,000 เมตร เป็นต้นกำเนิดของทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai Lake) หนึ่งใน 7 ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม มีบริการนั่งเรือชมความสวยงามของภูเขาที่สะท้อนเงาในทะเลสาบใสสะอาด ไฮไลท์อยู่ที่ “เมืองโบราณต้าหลี่” (Dali Ancient City) เป็นสถานที่เที่ยวในจีนที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเติมเต็มความคึกคักได้ตลอดปี เพราะรวมเจดีย์สามองค์ในวัดฉงเซิ่ง ทะเลสาบเอ๋อไห่ น้ำพุหูเตี๋ย กำแพงเมือง ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเยือน
ปิดท้ายทริปเที่ยวจีนด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตาของลี่เจียง อีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์และความโรแมนติกไม่เหมือนใคร ลี่เจียงตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันงดงามในมณฑลยูนนาน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์และบรรยากาศแสนผ่อนคลายของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ผสมผสานความเป็นชาวฮั่น นาซี่ และทิเบตเข้าไว้ด้วยกัน ชมความงดงามของไป๋สุ่ยเหอ (Baishui He Lake) หรือ “หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน” (Blue Moon Valley) ทะเลสาบสีฟ้าเทอควอยซ์ใสสะอาดบริสุทธิ์ ท่ามกลางหุบเขาและมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) สุดอลังการที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวและไอเย็นตลอดปี สวยสะกดทุกสายตาเหมือนหลุดออกมาจากซีรีส์จีนเลยทีเดียว ด้านหลังภูเขาหิมะมังกรหยกมีน้ำตกที่ไหลลดหลั่นกันลงไปจนกลายเป็นธารน้ำที่ปกคลุมไปด้วยไอเย็นสีขาวฟ้งกระจาย ชวนให้คุณตกหลุมรักลี่เจียงจนอยากจะมาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า
ประเทศจีนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และเมืองเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO อีกหลายแห่งที่รอให้คุณออกเดินทางไปค้นหา พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเสมอ พาหัวใจไปออนทัวร์สัมผัสกลิ่นอายความเป็นจีนแผ่นดินใหญ่หลากหลายมุมเมืองอย่างเต็มที่ และควรซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) เพื่อความอุ่นใจ เราพร้อมดูแลอย่างดีที่สุด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 611 4242ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น. และบริการสายด่วนฉุกเฉินทั่วโลกตลอด 24/7 โทร. +662 039 5770