
การใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยว ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องของการพักผ่อน แต่เป็นการสะสมประสบการณ์ เรียนรู้ผู้คน และเรื่องราวระหว่างทางที่แต่ละคนจะได้ซึมซับกลับมาแตกต่างกัน มามองหาแรงบันดาลใจให้ชีวิต ด้วย 10 สถานที่ที่สวย พร้อมให้คุณได้เตรียมเก็บกระเป๋าเที่ยวทั่วโลกสุดมหัศจรรย์ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ไปพบกับความน่าตื่นตาตื่นใจที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นกันสักครั้ง
พิกัด: Havasu Falls, USA น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีแอ่งน้ำสีเทอควอยซ์อยู่เบื้องล่าง ตรึงตราสุด ๆ ด้วยม่านน้ำสีฟ้าสดใสที่ตัดกับสีแดงส้มของภูมิประเทศรอบ ๆ เห็นภาพแล้วมหัศจรรย์สุด ๆ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ในเขตของชาวอินเดียนแดงที่ชื่อ Hualapai Indian Reservation ทางตะวันตกของอุทยานแห่งชาติ Grand Canyon หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกอันโด่งดังนั่นเอง ที่นี่จัดเป็นน้ำตกดังระดับโลก เพราะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำใส ฟ้าสวย คุณจะตื่นตากับความสูงของน้ำตกที่สูงถึง 120 ฟุต ทั้งยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปว่ายเล่น ซึ่งขอบแอ่งน้ำนี้เกิดจากการตกตะกอนของแคลเซียมคาร์บอเนต เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติอย่างแท้จริงเสน่ห์ส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำตก Havasu ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างหลงใหล ก็เพราะความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติล้ำค่าด้วยทัศนียภาพที่แทบไม่มีการปรุงแต่ง ใครอยากเห็นว่าธรรมชาติสร้างความงามได้ขนาดไหน มาพิสูจน์ได้ที่นี่กันเลย
พิกัด: Spotted Lake ทะเลสาบที่นี่ไม่ได้เป็นผืนน้ำกว้าง ๆ เหมือนที่เห็นทั่วไป เพราะที่นี่คือทะเลสาบลายจุดที่สวยสุด ๆ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก โดยทะเลสาบสปอท เลค (Spotted Lake) หรือทะเลสาบลายจุด เป็นทะเลสาบน้ำเค็ม อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโอโซยูซ (Osoyoos) รัฐบริติชโคลัมเบีย ของประเทศแคนาดา ความพิเศษที่โดดเด่นกว่าที่อื่น ๆ คือ แร่ธาตุนานาชนิดที่อยู่ในนั้น ทั้งแมกนีเซียม ซัลเฟต แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ซึ่งมีปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลกเลยนะ และที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมืองในหุบเขาโอคานาแกนอีกด้วย เพราะพวกเขามีความเชื่อว่าโคลนและน้ำจากทะเลสาบสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ใครอยากไปพิสูจน์หนึ่งที่เที่ยวทั่วโลกที่มีความสวยงามแบบแปลกตาที่ไม่เคยพบ ทะเลสาบลายจุดตอบโจทย์คุณได้
พิกัด: St. Basil's Cathedral มหาวิหารเซนต์บาซิลมีรูปทรงโดดเด่นและงดงาม ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 16 ถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเลยทีเดียว ที่นี่ประกอบด้วยโดม 9 โดม โดยมี 1 โดมอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอีก 8 โดมที่เหลือ ทำให้กลายเป็นอาคารรูปทรงแบบแปดเหลี่ยม สีสันสดใสดูแปลกตา ขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลิน โดยยอดของวิหารนี้สูงถึง 47.5 เมตร ที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากไบแซนไทน์ที่เป็นโดมทรงหัวหอม และสถาปัตยกรรมรัสเซียนกอธิก เราจะเห็นหอคอยสูงรูปกระโจมที่รับอิทธิพลมาจากยุโรปตะวันตก มหาวิหารแห่งนี้เลยกลายเป็นหอคอยสูงรูปเทียน ที่เหมือนมีไฟถูกจุดไว้บน ว่ากันว่าที่นี่ได้แรงบันดาลใจจากเทพเจ้าบนสวรรค์อีกด้วย จุดเด่นที่ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ คือโดมแต่ละยอดนั้นจะมีลวดลายสีสันงดงามแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดดูกลมกลืนและลงตัว ทำให้ดึงดูดคนจำนวนมากให้เดินทางมาที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกคู่กับมหาวิหารแห่งนี้ ถึงจะเรียกว่าได้ไปถึงรัสเซียมาแล้ว
พิกัด: The Dark Hedges พุ่มไม้แห่งความลึกลับที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือน The Dark Hedges อุโมงค์ต้นไม้ที่โด่งดังไปทั่วโลก อุโมงค์จากต้นไม้ธรรมชาติแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนเบอเกจห์ ในเมืองอาร์มอย ประเทศไอร์แลนด์ เป็นอุโมงค์พุ่มไม้ที่ลึกลับด้วยกิ่งก้านของต้นบีชอายุราว 300 ปี เติบโตทอดเป็นแนวยาวไปตลอดถนนสายเก่าแก่ของไอร์แลนด์ ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่ทั่วโลกยอมรับว่าสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว ฟังแบบนี้แล้วก็อยากไปเดินเล่นชมบรรยากาศกันแล้วใช่ไหม ต้นบีชเหล่านี้มีความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อย โดยมันได้ปลูกในช่วงศตวรรษที่สิบแปดโดยครอบครัวสจ๊วตเจ้าของที่ดินบริเวณนั้น ซึ่งจุดประสงค์ในการปลูกก็เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่จะเดินทางเข้าสู่บ้านของพวกเขา เสมือนเป็น welcome road นั่นเอง เมื่อเวลาผ่านไป ถนนเส้นนี้กลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามของไอร์แลนด์เหนือไปแล้ว แถมอุโมงค์ต้นไม้ที่ครอบครัวสจ๊วตได้ปลูกไว้นับร้อย ๆ ปี ยังโด่งดังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จนใครๆ ก็ต้องแวะไปเก็บภาพความสวยอัศจรรย์ของพุ่มไม้ลึกลับแห่งนี้กลับมาเป็นที่ระลึก
พิกัด: Whitehaven Beach ได้เวลาของคนรักทะเลที่มีหาดทรายขาวเป็นพระเอกชวนให้นักท่องเที่ยวหลงใหล ที่นี่คือหมู่เกาะวิทซันเดย์ (Whitsunday Island) ที่ได้รับการยอมรับว่ามีเม็ดทรายขาวที่สุดในโลก หาดไวท์เฮเวน มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนเกาะวิทซันเดย์ ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ไฮไลต์ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ คือเม็ดทรายของชายหาดที่ขาวสะอาดออร่าที่สุดในโลก เพราะลักษณะเป็นผลึกซิลิการะยิบระยับถึง 98 เปอร์เซ็นต์ แถมมีคุณสมบัติพิเศษคือเป็นทรายไม่เก็บความร้อน ทำให้คุณเดินเท้าเปล่าบนหาดได้อย่างสบาย แต่อย่าเพลินจนลืมว่าความแข็งของทรายสามารถทำให้กล้อง โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เสียหายได้นะ ด้วยความสวยงามดั่งภาพวาด ที่นี่จึงได้รับรางวัลติดต่อกันหลายปีเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ รางวัลหาดขาวสะอาด การจัดการที่ดีเยี่ยม ซึ่งเราจะไม่เห็นสัตว์เลี้ยงในบริเวณนี้ แถมเป็นเขตที่ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด และไม่มีที่พักบนหาดเลยสักแห่งเดียว ไปอิ่มเอมกับธรรมชาติของทะเลสีคราม ตัดกับหาดทรายสีขาว มีหลังคาเป็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใส แบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อนกันเถอะ
พิกัด: Portofino เบื่อเมืองใหญ่ ๆ มาลองเดินเมืองเล็ก ๆ น่ารักที่ถูกขนานนามว่า "สวรรค์แห่งเมืองท่า" กันดีไหม ที่นี่คือปอร์โตฟิโน (Portofino) เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยู่ในเขตจังหวัดของเจนัว ของประเทศอิตาลี ภายในตัวเมืองปอร์โตฟิโนมีบ้านเรือนหลากสีสัน ตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มีเรือยอร์ช (Yatch) จอดเต็มไปหมด จากนั้นคุณอาจแวะไปชมความงดงามของโบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin) โบสถ์ขนาดกลางที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่12 แล้วก็ไปต่อที่ความยิ่งใหญ่ของปราสาทและป้อมปราการ Castello Brown ที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเมืองอีกด้วย ใครกำลังมองหาเมืองน่ารัก ๆ สดใส ที่จะได้เห็นทั้งบรรยากาศธรรมชาติ ภูเขาอันเขียวชอุ่ม และความงดงามของชายทะเลต้องแวะมาที่เมืองปอร์โตฟิโนแห่งนี้นะคะ
พิกัด: Cappadocia คัปปาโดเจีย นครใต้ดินเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนหลงรัก ผู้ที่เรียกเมืองนี้เป็นคนแรกคือ ฮาลี คานาโซส ต่อมาเปอร์เซียเรียกว่า คัตปาตุกา (Katpatuka) แปลว่า ดินแดนแห่งม้าแสนสวย แต่ในปัจจุบันก็กลับมาเรียกคัปปาโดเจียเหมือนเดิม เมืองคัปปาโดเจีย อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวงแบบนี้ ความโดดเด่นของที่นี่จึงเป็นหินรูปกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ราวกับดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney) ใครอยากหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งเทพนิยายที่งดงามแปลกตา ต้องมาที่นครใต้ดินแห่งนี้
พิกัด: Blue Lagoon บลูลากูน แห่งหมู่เกาะกาลาปากอส เอกวาดอร์ (The blue lagoon) ซึ่งถูกกล่าวขานว่างดงามดั่งเกาะสวรรค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางทั่วโลกอยากมาเยือน เพราะเกาะมีลักษณะเป็นหินสีขาวสะอาด มีแอ่งน้ำสีฟ้าสดใสอยู่ภายในเกาะ โดยความงดงามมหัศจรรย์นี้เอง ทำให้ใคร ๆ ต่างบอกว่าเป็นบรรยากาศที่ดุจดั่งเกาะสวรรค์กันเลยทีเดียว เกาะบลูลากูน สวยแปลกตาด้วยรูปทรงของเกาะที่ไม่สมมาตร อันเนื่องมาจากคลื่นลม แต่เห็นแบบนี้ เกาะนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่ารัก ๆ อย่างนกฟลามิงโกขนสีชมพูที่คอยมาเยี่ยมเยือนแอ่งน้ำกร่อยภายในเกาะอย่างไม่ขาดสาย ใครมองหาสถานที่สวยงามดั่งสวรรค์มาเติมเต็มให้กับชีวิต ต้องมาที่บลูลากูนกันสักครั้ง
พิกัด: Rothenburg ob der Tauber ชวนไปเมืองเล็ก ๆ น่ารักของประเทศเยอรมนีกันบ้าง โรเธนเบิร์ก อ๊อบ เดอร์ ทัวเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) ที่ใคร ๆ ก็อยากแวะเวียน ที่นี่มีถนนสายโรแมนติกที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เกี่ยวก้อยกันมาเดินชมบรรยากาศ ชื่อเมืองนี้มีที่มาจากคำว่า “ob der Tauber” ในภาษาเยอรมันแปลว่าริมแม่น้ำ Tauber นั่นเอง ตั้งอยู่ที่แคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี อยู่กึ่งกลางระหว่างเมือง Frankfurt กับเมือง München สภาพบ้านเมือง Rothenburg เป็นแบบย้อนยุคดูคลาสสิก เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบเดิมเอาไว้ เมื่อเราเดินเล่นอยู่ในเมืองนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนกับได้เดินทอดน่องอยู่ในยุโรปยุคกลาง ที่มีทั้งกำแพงเมืองและป้อมปราการหอคอยล้อมรอบไว้ ใครชอบถ่ายรูปคงถูกใจเป็นพิเศษ เพราะในแต่ละตรอกซอกซอยของเมืองนี้ น่าถ่ายรูปทั้งนั้น เรียกว่าสวยขึ้นกล้องทั้งเมืองเลยทีเดียว นอกจากนี้ หนึ่งในเทศกาลที่โด่งดังของเมืองนี้ คือตลาดคริสต์มาส จัดขึ้นที่บริเวณ Market Square ก่อนช่วงถึงวันคริสต์มาส คุณจะเห็นความมีชีวิตชีวา และกลิ่นอายความรื่นเริงของเทศกาลให้เห็นไปทั่วบริเวณ ที่ตลาดจะละลานตาไปด้วยทุกอย่างที่เกี่ยวกับคริสต์มาส แม้หลาย ๆ เมืองในยุโรปจะมีตลาดลักษณะนี้มากมายก็ตาม แต่ที่เมือง Rothenburg ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่ควรไปเยือนเป็นที่สุด ใครอยากเดินเพลิดเพลินอยู่ในเมืองย้อนยุค ต้องรีบบุ๊กตั๋วมาที่นี่แล้ว
พิกัด: Glacier National Park เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันบ้าง ที่เกลเชอร์เป็นอุทยานแห่งธารน้ำแข็งและทุ่งหญ้าอัลไพน์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นป่าทึบ ภูเขาขรุขระ และทะเลสาบที่งดงาม จึงทำให้อุทยานแห่งชาติเกลเชอร์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังทั่วโลก เป็นสวรรค์ของคนที่รักการท่องเที่ยวผจญภัย รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของโรงแรมรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงอีกจำนวนหลายแห่งอีกด้วย สำหรับพืชพันธุ์สัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเกลเชอร์ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ได้อนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวก หมี แพะภูเขาที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยาน แมวป่า และนกอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่พบมากในเขตอุทยาน ซึ่งทำให้คุณได้เพลินตาไปกับสิ่งมีชีวิตน่ารัก ๆ อีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงฤดูร้อนและช่วงฤดูหนาว แต่อุทยานจะสวยมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน เพราะทั้งอุทยานจะปกคลุมไปด้วยดอกไม้ป่าหลากหลายสายพันธุ์ ที่แข่งกันเบ่งบานอวดความสวยงามให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติที่ถูกดูแลไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ต้องมาเยือนที่นี่ซักครั้งแล้วล่ะค่ะ ก่อนจะออกเดินทางไปพบกับจุดหมายมหัศจรรย์ที่รออยู่ อย่าลืมมองหาประกันการเดินทางต่างประเทศ เพื่อการเดินทางที่สบายใจหมดกังวลกับเรื่องไม่คาดคิดด้วยนะคะ สนใจประกันภัยการเดินทาง โทร. 0 2611 4242