10 ที่เที่ยวฟุกุโอกะยอดนิยมในปี 2025 | ประกันเดินทาง Chubb

    ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อดีตศูนย์กลางการปกครองแบบ “ดาไซฟุ" (Dazaifu) ที่สำคัญของภูมิภาคคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ที่ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ขึ้นชื่อเรื่องสตรีทฟูดแบบยะไต (Yatai) รถเข็นริมทางที่ชาวฟุกุโอกะมักจะมาสังสรรค์หลังเลิกงานในบรรยากาศสุดผ่อนคลาย รวมถึง “ราเม็งทงคตสึ” (Hakata Ramen) และ “ขนมฮากาตะ โทริมอน” (Hakata Torimon) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ ด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารเลื่องชื่อ ทำให้ฟุกุโอกะครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่แตกต่างจากเมืองอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ชับบ์ อาสาพาไปลุย 10 ที่เที่ยวฟุกุโอกะมาแรงในปี 2025 ที่จะทำให้คุณหลงรักเมืองนี้อย่างแน่นอน!

1. วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)

    ใจกลางป่าอันเงียบสงบแห่งเมืองซาซากุริ (Sasaguri) เป็นที่ตั้งของ “วัดนันโซอิน” วัดพุทธนิกายชินกอน (Shingon) ที่มีพระพุทธไสยาสน์ทองสัมฤทธิ์หรือ “พระนอน” องค์ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และหนักประมาณ 300 ตัน ภายในองค์พระบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศเมียนมา เดิมวัดนันโซอินตั้งอยู่ที่ภูเขาโคยะ ก่อนจะย้ายมายังเมืองซาซากุริในปี ค.ศ. 1899 เนื่องจากการต่อต้านนิกายพุทธในยุคนั้น วัดแห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแสวงบุญซาซากุริ 88 สถานี ที่มีระยะทางประมาณ 44 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางแสวงบุญที่มีชื่อเสียงอย่างมากในภูมิภาคคิวชู อีกทั้งวัดนันโซอินยังโด่งดังด้านการขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทอง และการเสี่ยงดวง ซึ่งน่าจะโดนใจนักท่องเที่ยวชาวไทยไม่น้อย!

• พิกัด: https://goo.gl/maps/Qq7LQE5pEJW9Um4h7?coh=178572&entry=tt
• การเดินทาง: เดินทางโดยรถไฟ JR Sasaguri Line ไปยังสถานี Kido-Nanzoinmae และเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที

2. ศาลเจ้าดะไซฟุ เทนมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine)

    ดะไซฟุ เทนมังกู หรือ “ศาลเจ้าแห่งปัญญา” ศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงและสำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองดาไซฟุ จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าที่สักการะ “ซูงาวาระ มิจิซาเนะ” (Sugawara no Michizane) นักปราชญ์และกวีที่มีชื่อเสียงในยุคเฮอัน และได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษาของชาวญี่ปุ่น จึงเป็นที่นิยมของนักเรียนนักศึกษาที่มาขอพรให้ประสบความสำเร็จในการเรียนและการสอบ โดยเฉพาะ “รูปปั้นวัว” สัมฤทธิ์หลายจุดในศาลเจ้า ซึ่งเชื่อกันว่าการลูบรูปปั้นวัวจะช่วยให้ได้รับพรด้านความรู้และความสำเร็จ บรรยากาศภายในศาลเจ้าก็เงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ก็สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนคุณสามารถเดินชมรอบ ๆ ศาลเจ้าได้อย่างเพลิดเพลิน แล้วอย่าลืมซื้อเครื่องรางติดมือกลับบ้านด้วยนะครับ

• พิกัด: https://goo.gl/maps/QV683NtHWmbk7GLm8
• การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายนิชิเท็ตสึ ลงสถานีดะไซฟุ (แวะเปลี่ยนสายที่สถานีฟุทสึไคจิ) จากนั้นเดินต่อไปยังศาลเจ้าประมาณ 5 นาที

3. ล่องเรือชมซากุระ ยานากาวะ (Yanagawa)

    เปลี่ยนจากเซลฟี่กับดอกซากุระในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วไป มาล่องเรือชมซากุระในแม่น้ำซุยโกะ (Suiko River) แห่งเมือง “ยานากาวะ” เจ้าของฉายา “เมืองแห่งสายน้ำ” (City of Water) การล่องเรือคาวะคุดา (Kawakudari) เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวจะได้นั่งเรือไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ล่องไปตามแม่น้ำชมทิวทัศน์ที่สวยงามในแต่ละฤดูกาล นอกจากนี้ ยานากาวะยังมี “บ้านพักตระกูลทาจิบานะ” (Tachibana Family Residence) บ้านพักซามูไรเก่าแก่ที่มีสวนญี่ปุ่นสวยงาม และ “ศาลเจ้ามิฮาชิระ” (Mihashira Shrine) ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและสถาปัตยกรรมงดงาม ใครมาถึงเมืองนี้แล้วต้องลอง ปลาไหลย่าง (Unagi Seiro Mushi) ปลาไหลย่างเสิร์ฟบนข้าวในกล่องไม้ที่มีกลิ่นหอมและอร่อยล้ำไม่ซ้ำใคร

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/1k3RQG5EoANQarG37
• การเดินทาง: นั่งรถไฟจากฟุกุโอกะไปยานางาวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

4. สวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden)

    สวนดอกไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นที่เลื่องลือถึงความสวยงามของ “อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย” (Wisteria) หลากหลายสีสัน เช่น สีม่วง สีชมพู สีขาว และสีฟ้า ทอดตัวยาวไปตามทางเดินจนสุดสายตา สวนดอกไม้แห่งนี้เกิดจากความฝันของ “ฮิกุจิ มาซาโอะ” ที่ได้แรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ จึงอยากสร้างบางสิ่งไว้ให้เป็นที่จดจำหลังเขาจากลาโลกใบนี้ ด้วยการสร้างสวนดอกวิสทีเรียหรือ “ดอกฟูจิ” และดอกไม้นานาพันธุ์ร่วมกับครอบครัว ก่อนจะขยายพื้นที่จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไฮไลท์อยู่ที่ “ต้นวิสทีเรีย” ขนาดยักษ์อายุกว่า 120 ปี วิสทีเรียต้นแรกที่เขาปลูกบนผืนดินแห่งฝัน ปัจจุบันแผ่กิ่งก้าสาขายาวกว่า 110 เมตร โดยช่วงเวลาที่ดอกวิสทีเรียบานสะพรั่งที่สุด คือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม จึงหนาตาไปด้วยนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาชมสวยในฝันของคุณมาซาโอะ

• ช่วงเวลาเปิดทำการ: สวนเปิดให้เข้าชมปีละ 2 ครั้ง คือช่วงฤดูดอกวิสทีเรียบาน (ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม) และช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือใบไม้เปลี่ยนสี (กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม)
• พิกัด:  https://goo.gl/maps/CUE7Jxj8yNsNixHD8
• การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Kagoshima Main Line จากสถานี JR Hakata ลงสถานี JR Yahata จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 ลงป้าย Kawachi Elementary School แล้วเดินอีก 10-15 นาที

5. ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)

    หอคอยที่สูงที่สุดในเมืองฟุกุโอกะ และจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1989 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของเมืองฟุกุโอกะ มีชื่อเล่นว่า “Mirror Sail” เนื่องจากภายนอกหุ้มด้วยกระจกกว่า 8,000 แผ่น หอคอยแห่งนี้มีความสูง 234 เมตร และเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวเมืองฟุกุโอกะแบบ 360 องศาฯ บนความสูง 123 เมตร ช่วงกลางวันคุณจะได้ชื่นชมความสวยงามของฟุกุโอกะ ทะเลฮากาตะ หมู่เกาะน้อยใหญ่ และภูเขาที่โอบล้อมตัวเมืองได้อย่างเพลินตา ส่วนยามค่ำคืนคุณจะตื่นตาตื่นใจกับแสงสีที่ส่องประกายระยิบระยับไปทั่วเมืองราวกับหมู่ดาว ทำให้หอคอยแห่งนี้เป็นอีกหนึ่ง Romantic’s Destination ของคู่รักจากทั่วโลก

• พิกัด:  https://goo.gl/maps/wbvJSrhnDK1s58g69
• การเดินทาง: ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Nishijin จากนั้นเดินต่อประมาณ 20 นาที

6. สัมผัสวิถียะไต ริมคลองนาคาสุ (Nakasu Canal)

    “นาคาสุ” เป็นคลองที่ไหลผ่านใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ในอดีตคลองนาคาสุเคยเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของเมือง ปัจจุบัน คลองนาคาสุกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว หลายคนชอบการเดินเล่นริมคลองนาคาสุในช่วงเย็น ๆ เพราะมีร้านอาหารแบบยะไต อิซากายะ ผับ และบาร์มากมายให้เลือกชิลล์ตามรสนิยม แล้วยังมีเรือนำเที่ยวคอยให้บริการล่องเรือชมวิวตลอดวัน เราแนะนำให้นั่งเรือชมวิวในยามค่ำคืน เพราะคุณจะได้เห็นแสงสีของเมืองส่องประกายบนผิวน้ำอย่างน่าประทับใจ

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/hy2AXB4FwsPPAJb49  
• การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Nanboku Line ลงสถานี Nakasu-Kawabata หรือสถานี Tenjin

7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมารีนเวิลด์ อูมิโนนากามิจิ (Marine World Uminonakamichi)

    ตื่นตาตื่นใจไปกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคคิวชู ตั้งอยู่บนเกาะอูมิโนนากามิจิ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว คู่รัก และผู้ที่ชื่นชอบโลกใต้ทะเล ภายในพิพิธภัณฑ์มีสัตว์ทะเลกว่า 350 ชนิด รวมกว่า 30,000 ตัว มีตู้อควาเรียมนาดใหญ่ที่จำลองสภาพแวดล้อมของทะเลเปิดให้ชมสัตว์ทะเลได้อย่างใกล้ชิด พร้อมโชว์ของสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ ขวัญใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องยกให้ว์สุดน่ารักของปลาโลมาและสิงโตทะเล แล้วยังมีอุโมงค์ใต้น้ำที่คุณสามารถเดินชมปลาฉลามและสัตว์ทะเลอื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างใกล้ชิด

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/ZpBQCfUDBToLXzTFA
• การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Kashii Line ไปลงที่สถานี Uminonakamichi และเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

8. ถ่ายรูปคู่กันดั้มยักษ์ @ศูนย์การค้า LaLaport Fukuoka

    ใครมาถึงฟุกุโอกะต้องถ่ายรูปคู่กับหุ่นยนต์กันดั้ม RX-93ff V Gundam สูง 24.8 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณ Oval Park ด้านหน้าของ LaLaPort ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมืองฟุกุโอกะที่เปิดให้บริการในปี 2022 ตั้งอยู่ในเขตฮากาตะ ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ ห่างจากสถานีรถไฟฮากาตะประมาณ 20 นาที ภายในมีร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกมากกว่า 200 ร้าน ทั้งแบรนด์แฟชั่น, ร้านขายของที่ระลึก, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านอาหารนานาชาติ และคาเฟ่เก๋ ๆ ให้นั่งชิลล์ สาวกกันดั้มต้องไม่พลาด “Gundam Park Fukuoka” สวนสนุกในร่มบนชั้น 4 ของห้างฯ ที่มีทั้งร้านขายของที่ระลึกจากกันดั้ม, คาเฟ่กันดั้ม และโซน Arcade ให้เล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/nXzbjzND9LZ9UHv17
• การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สาย Kagoshima Line ลงที่สถานี Takeshita และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที หรือรถบัสจากสถานีฮากาตะได้ โดยขึ้นรถบัสเทอร์มินอล 13 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

9. ช้อปปิ้งย่านเทนจิน (Tenjin)

    สายช้อปต้องแวะมาอัปเดตเทรนด์แฟชั่นกันที่ “เทนจิน” ย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟุกุโอกะ รวมช็อปแบรนด์เนม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้ามากมายไว้ครบในที่เดียว รวมถึง Tenjin Chikagai แหล่งช้อปปิ้งใต้ดินที่ยาวที่สุดบนเกาะคิวชู บรรยากาศเหมือนยุโรปในศตวรรษที่ 19 มีร้านค้าให้เลือกช้อปเพลิน ๆ มากกว่า 150 ร้าน ใครหิวก็แวะมาฝากท้องที่ร้านอาหารญี่ปุ่นและอาหารนานาชาติกันได้ตลอดวัน ช้อปเหนื่อยก็แวะพักผ่อนกันที่สวนสาธารณะเคโงะ (Kego Park) ใจกลางย่านเทนจินได้เลย แล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองได้อีกด้วย

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/jbGbzyQSTqhuPhgRA
• การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Tenjin และ Nishitetsu Fukuoka (Tenjin)

10. ชมดอกไม้บานสะพรั่ง บนเกาะโนโคโนชิมะ (Nokonoshima Island)

    เกาะเล็ก ๆ ใกล้กับเมืองฟุกุโอกะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและเงียบสงบราวกับสวรรค์ของการพักผ่อน ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ที่บานสะพรั่งตลอดทั้งปี เช่น ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกทานตะวันในฤดูร้อน และดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง แนะนำให้ไปเที่ยวเกาะโนโคโนชิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) เพราะคุณจะได้ถ่ายรูปกับดอกไม้หลากสีสันตามฤดูกาลที่ผลิบานกลางทุ่งกว้างใหญ่ แล้วยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น ปั่นจักรยาน เดินป่า เล่นน้ำทะเล และเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกทะเลที่สวยงามน่าประทับใจ

• พิกัด: https://maps.app.goo.gl/teTQcxcYtKD668Uf7
• การเดินทาง: นั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือเมอิโนฮามะ (Meinohama Ferry Terminal) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

เที่ยวฟุกุโอกะ เดือนไหนดี?

    บอกเลยว่า ฟุกุโอกะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ในทุกฤดูกาลครับ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน) เป็นช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุดและมีเทศกาลต่าง ๆ ให้ชมมากมาย ส่วนใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวฟุกุโอกะในแต่ละฤดูกาล คุณจะได้ชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว ดังนี้

• ชมดอกซากุระและทุ่งดอกไม้ผลิบาน: ควรไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
• สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและชมใบไม้เปลี่ยนสี: ควรไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)
• เที่ยวทะเลและชมเทศกาลประจำปี: ควรไปช่วงฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)
• ชมการประดับไฟสวยงาม: ควรไปช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)

    คนชอบเที่ยวญี่ปุ่นและวางแผนท่องเที่ยวฟุกุโอกะ ตามเก็บที่เที่ยวยอดนิยมเหล่านี้ให้ครบนะครับ แน่นอนว่า จะเที่ยวให้สนุกและมีความสุขในทุกเส้นทาง หมดกังวลเรื่องความเจ็บป่วย ทรัพย์สินสูญหาย อุบัติเหตุไม่คาดฝัน หรือต้องการความช่วยเหลือตลอด 24/7 อย่าลืมซื้อประกันภัยการเดินทางต่างประเทศของชับบ์ (Chubb Travel Insurance) ประกันที่พร้อมดูแลและคุ้มครองคุณอย่างดีที่สุดทั่วโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 611 4242